Sitdhi

เพิ่งเสร็จสิ้นไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อสักครู่ที่ผ่านมานี้เอง สำหรับการจับสลากแบ่งกลุ่มฟุตบอลถ้วยใหญ่ที่สุดในยุโรป UEFA Champions League ฤดูกาล 2013-2014

ผ่านไปหนึ่งเปราะ จบไปแล้วสำหรับ big match แรกของ English Premier League ฤดูกาลนี้ ด้วยผลเสมอแบบไร้ประตูระหว่าง Manchester Untied กับ Chelsea เมื่อคืนที่ผ่านมา ในฤดูกาลนี้ Chelsea ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ลีกมาครองได้เมื่อจบฤดูกาล Man U แชมป์จากฤดูกาลก่อนถูกลดอันดับเต็งลงไปถึงที่ 3 เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม และการที่ไม่ได้ผู้เล่นระดับท็อปตัวใหม่เข้ามาเสริมทีมเลย เต็งหนึ่งย่อมเป็นต่อ ก่อนเกมกูรูหลายคนยกให้ Chelsea เหนือกว่า Man U หลายขุม บางคนทำนายสกอร์ไว้ว่า Chelsea จะชนะไม่ต่ำกว่าสองลูกเสียด้วยซ้ำ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ยังไม่เชื่อใจในตัวของ David Moyes นายใหญ่คนใหม่แห่ง Old Trafford จะให้ไว้ใจได้อย่างไร เพราะผลงานช่วง pre-season ทำไว้ได้ไม่น่าประทับใจเลย โดยเริ่มต้นด้วยการ

เฟสบุ๊กได้ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ออกมาเรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ การอนุญาตให้นำโพสที่เปิดเป็น public บนเฟสบุ๊กไปฝังลงบนเว็บไซต์ต่างๆ ว่าแล้วก็ลองเอาของตัวเองมาฝังลงบนบล็อกดูบ้าง :) Post by Sitdhi Sarpsukala .

CI ย่อมาจากคำภาษาอังกฤษว่า " Continuous Integration " แปลเป็นภาษาไทยอย่างตรงตัวได้ว่า "การบูรณาการอย่างต่อเนื่อง " หลายคนอ่านคำแปลแล้วก็ยังคงงงต่อไป เนื่องจากมันไม่ได้ตอบคำถามว่า CI คืออะไร ก่อนจะพูดถึง CI เราลองมานึกถึงการทำซอฟต์แวร์แบบเก่าๆ กันก่อน เมื่อพูดถึงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ ทุกตำราต้องกล่าวถึงตำนานอันยิ่งใหญ่ของ Waterfall Model อย่างขาดไม่ได้ ขั้นตอนต่างๆ ของ Waterfall Model ประกอบไปด้วย การเก็บความต้องการของผู้ใช้ นำความต้องการที่ได้มาออกแบบให้เป็นระบบ ลงมือพัฒนาระบบ นำทุกระบบมารวมกัน ทดสอบ และแก้ไขข้อผิดพลาดจากการทำงาน นำระบบไปติดตั้ง ใช้งานจริง บำรุงรักษาระบบ ข้อเสียอย่างหนึ่งของ Waterfall Model คือ กระบวนการต่างๆ ย้อนกลับไม่ได้ เฉกเช่นเดียวกับน้ำตก ที่ไม่สามารถไหลย้อนกลับได้ ฉันใดฉันนั้น ดังนั้น เมื่อเกิดข้อผิดพลาดในขั้นตอนการรวมทุกระบบเข้าด้วยกัน ก็เกือบจะสายเกินไปแล้ว เพราะอาจทำให้เราต้องออกแบบระบบใหม่ตั้งแต่ต้นเลยก็เป็นได้ ผมเคยเจอข้อสอบถามประมาณว่า ทำไมการเจอข้อผิดพลาดในการทำงานของซอฟต์แวร์ก่อน จึงเสียค่าใช้จ่ายในการแก้ไขน้

จากที่เมื่อวานมีข่าวจากวงในออกมาว่า Windows 8.1 จะออกมาให้ได้อัพเดทกันในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ วันนี้ Brandon LeBlanc ได้ โพสบน Windows Blog ถึงวันเวลาที่แน่นอนที่จะปล่อยอัพเดทแล้ว Windows 8.1 จะเริ่มปล่อยให้อัพเดทกันโดนไม่เสียค่าใช้จ่ายผ่านทาง Windows Store ในเที่ยงคืนของวันที่ 18 ตุลาคมนี้ ตามเวลาของนิวซีแลนด์ หรือตีสี่ของวันที่ 17 ตุลาคม ตามเวลาที่ Redmond ในส่วนของอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับ Windows 8.1 จะวางผ่านหน้าร้านในวันที่ 18 ตุลาคม

Windows 8 ถือเป็นการปฏิวัติการใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows ที่มีกันมานับสิบปีให้เปลี่ยนไปเกือบจะสิ้นเชิง ด้วยส่วนติดต่อผู้ใช้ใหม่ ที่เรียกกันว่า Metro UI แม้ตอนหลับจะเปลี่ยนเป็น Modern UI หรือ Windows 8 UI ก็ตาม แต่เสียงตอบรับไม่ค่อยจะดีนัก เพราะ UI ดังกล่าว ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานกับระบบสัมผัสเสียมากกว่า แต่ก็ยังมีระบบบางส่วนที่ยังไม่ได้ถูกออกแบบใหม่ จึงทำให้มันกลายเป็นระบบปฏิบัติการลูกครึ่ง จะใช้บน tablet ก็ไม่เต็มที่ บน PC แบบเดิมๆ ก็มีข้อให้ติติงอยู่ ผ่านไปหนึ่งปี Microsoft ก็ได้พัฒนา ปรับปรุง แก้ไขระบบปฏิบัติการของตัวเองตามคำติชมของลูกค้า โดยอัพเดทดังกล่าวใช้ชื่อรุ่นว่า Windows 8.1 ในรุ่นนี้มีการปรับปรุง UI หลายด้าน รวมถึงจุดบกพร่องต่างๆ เช่น ปรับปรุงการทำงานแบบ multitasking, Live Tiles ใหม่ ที่ปรับให้เล็กลงกว่าเดิมได้, ระบบค้นหาของ Bing ที่ติดมากับระบบปฏิบัติการเลย โดยคาดว่าจะทำให้ผลตอบรับจากผู้ใช้ดีขึ้นกว่าเดิม ผู้ใช้ Windows 8 ทั้งหลายต่างกำลังรออัพเดทตัวใหม่นี้อย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่ Microsoft จะปล่อยออกมาเสียที ล่าสุดแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับ Microsoft ออกมาให้ข่