Skip to main content

ทำ Executable jar file ด้วย eclipse

คลิกขวาที่ project ที่ต้องการทำ jar file แล้วเลือก export
clip_image002

เลือก Java >> JAR file แล้ว Next
clip_image004

เลือกที่ที่ต้องการจะ export โดยการ Browse… เลือกที่ แล้วตั้งชื่อ
สามารถติ๊กถูกที่ export java source files and resources เพื่อให้ใส่ .java และ resources ต่างๆ ใน jar file ไปด้วย
clip_image006
เสร็จแล้วกด Next >

จะเจอหน้าแบบนี้ ให้กด Next > อีกที
clip_image008

เจอหน้าสุดท้าย กด Next ต่อไปไม่ได้แล้ว
clip_image010
ตรงช่อง Select the class of the application entry point: ให้กด Browse… แล้วเลือก Main Class ของ application ในที่นี้ผมมีคลาสเดียวชื่อ MainClass และมี main method อยู่ในคลาสนี้ เลยเลือกอันนี้ กด OK
clip_image012

กด Finish เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
clip_image014

ได้ executable jar file มาแล้ว
clip_image016
ลอง run เพื่อทดสอบ
clip_image018
รันได้ ! เรียบร้อยครับ !!

Comments

Popular posts from this blog

เพื่อนสนิท ไม่ว่าจะไม่เจอกันนานแค่ไหน เมื่อกลับมาเจอกันใหม่ก็ยังรู้สึกสนิทกันเหมือนเดิมจริงหรือ?

เคยมีคนบอกเอาไว้ว่า " เพื่อนสนิท ไม่ว่าจะไม่เจอกันนานแค่ไหน เมื่อกลับมาเจอกันใหม่ก็ยังรู้สึกสนิทกันเหมือนเดิม " ผมว่ามันไม่จริงเสมอไป อาจจะต้องเริ่มอธิบายกันก่อนว่าทำไมเราถึงรู้สึกสนิทกับใครบางคน การที่เราจะสนิทกับใครสักคนเราต้องกิจกรรมทางสังคมหลายๆ อย่างด้วยกันบ่อยๆ มีกิจกรรมร่วมกัน เช่น ไปกินข้าวด้วยกันประจำ ไปเที่ยวด้วยกันประจำ คุยกันเป็นประจำ ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ เป็นต้น การที่เราจะทำกิจกรรมแบบนี้กับใครสักคนได้เป็นประจำ เชื่อเถอะว่าคุณกับเขา ต้องมีความคิดเห็น นิสัย ความชอบอะไรเหมือนๆ กัน เอาจริงๆ คือแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คนชอบกินอะไรคนละอย่างแต่ดันไปกินข้าวด้วยกันเป็นประจำ หรือคนที่ชอบคุยกันคนละเรื่องแต่ก็ดันคุยกันด้วยกันทุกวัน คนที่ชอบเที่ยวกันคนละสไตล์แต่ก็ดันไปเที่ยวด้วยกันเป็นประจำอีก อาจจะมีข้อยกเว้นนะ แต่ผมว่าโอกาสเป็นไปได้น้อยมากๆ ข้อเท็จจริงข้อหนึ่งที่ต้องยอมรับกันก็คือ นิสัย ความชอบ ทัศนคติของคนเราเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ในขณะที่เพื่อนสนิทต่างต้องแยกย้ายกันไปมีชีวิตของตนเอง ต่างคนต่างต้องเผชิญกับชีวิตรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ประสบการณ์ต่างๆ ที่ต่างคนต่างพบเจอนี่แหละ ท

วิธีการแก้ไขปัญหาซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์

ปัญหาการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทย เป็นปัญหาที่แก้กันไม่ตก เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ต่อหัวของประชากรค่อนข้างต่ำ แต่รสนิยมในการบริโภคกลับไม่ต่ำตาม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีการผลิตของลอกเลียนแบบ หรือของละเมิดลิขสิทธิ์ในอัตราที่สูงจนติดอันดับต้นๆ ของโลก ไม่เพียงรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ติดอันดับโลก แต่รวมไปถึงสินค้าแบรนด์เนมสุดหรูอย่างเสื้อผ้า กระเป๋า น้ำหอม เครื่องสำอางอีกด้วย ซอฟต์แวร์ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ มีตั้งแต่ซอฟต์แวร์ประเภทระบบปฏิบัติการ อย่าง Windows และ Mac OS ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในในสำนักงาน อย่าง MS Office ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในงานออกแบบ อย่าง Adobe Creative Suit รวมไปถึงซอฟต์แวร์ที่ใช้ทำงานเฉพาะด้านอย่าง CAD/CAM และอีกมากมายหลายประเภท ผู้ที่เสาะแสวงหาซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์นั้นส่วนใหญ่เป็นบุคคลธรรมดา เพราะพวกเขาเหล่านั้นคิดว่าการใช้ซอฟต์แวร์ปลอมตรวจจับได้ยาก อีกทั้งการใช้ซอฟต์แวร์ปลอมก็ไม่ได้ทำให้เขาสูญเสียผลประโยชน์แต่อย่างใด ซึ่งผิดกับนิติบุคคล อย่างองค์กรของรัฐ หรือบริษัทต่างๆ ที่ต้องการการบำรุงรักษาระบบ และบริการหลังการขาย

วิธีการใช้ไม้บรรทัดและแท็บใน Microsoft Office Word 1

เชื่อว่าทุกๆ คน คงได้ใช้ Microsoft Office Word กันทุกคน และก็น่าเชื่ออีกว่า หลายๆ คนที่ใช้ๆ อยู่ ไม่รู้วิธีการใช้ไม้บรรทัด และแท็บอย่างแท้จริง เรามาเริ่มต้นด้วยการรู้จักกับไม้บรรทัดกันก่อนดีกว่า ในที่นี้ของใช้เวอร์ชัน 2007 ในการแนะนำแล้วกันนะครับ แต่เนื่องจากเป็นการเขียนเองจากประสบการณ์การใช้ การใช้ศัพท์อะไรต่างๆ อาจไม่ถูกต้องตามที่ผู้ผลิตบัญญัติไว้ ขออภัยด้วย จะเห็นว่าไม้บรรทัดมีส่วนที่เป็นสีอยู่สองสี ส่วนที่เป็นสีจะเป็นส่วนของขอบกระดาษ ส่วนที่เป็นสีขาวจะเป็นพื้นที่ทำงานจริงๆ ของเรา ส่วนที่เป็นสี่เหลี่ยมสามเหลี่ยมนั้น เป็นส่วนที่ช่วยในการจัดย่อหน้าข้อความ เอาล่ะๆ ขั้นต่อไป เราไปทำความรู้จักกับแท็บแบบต่างๆ กัน ที่อยู่ของการจัดรูปแบบแท็บอยู่ทางซ้ายบนของกรอบกระดาษ แท็บก็มีหลายรูปแบบ เพื่อการใช้งานในรูปแบบต่างๆ กัน เราสามารถเลือกใช้แท็บต่างๆ โดยการคลิกหนึ่งที (คลิกซ้ายหรือขวาก็ได้) ที่รูปแท็บนั้น แล้วไปคลิกจุดที่ต้องการวางแท็บบนไม้บรรทัด นี่คือแท็บซ้าย เอาไว้จัดข้อความให้ชิดซ้าย นี่คือแท็บกึ่งกลาง เอาไว้จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง นี่คือแท็บขวา เอาไว้