Skip to main content

ประสบการณ์แย่ๆ กับทรู

ขอเกริ่นก่อนว่าตั้งแต่เป็นลูกค้า True มา ยังไม่เคยเจอปัญหาหนักหนาขนาดนี้มาก่อน ปกติถ้ามีปัญหา แจ้งทาง call center ไป แม้ว่าจะต้องถือสายรออยู่นานพอสมควร แต่ปัญหาก็มักจะคลี่คลายไปได้ แต่ปัญหาครั้งนี้เกิดขึ้นนานหลายวันมาก

ผมอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ทีนี้ TrueVisions ที่ห้องมีอาการภาพกระตุก ค้างเป็นช่วงๆ แล้วมันจะค่อนข้างไม่สบอารมณ์โดยเฉพาะเวลาดูฟุตบอล ภาพมันมักจะค้างจังหวะได้เสีย เช่น กำลังพาบอลบุกเข้าไปในเขตโทษ หรือกำลังจะยิงประตู เป็นต้น แรกๆ ปัญหามันก็ไม่ได้หนักอะไรมาก มีค้างบ้างบางจังหวะ แต่หลังๆ รู้สึกเริ่มค้างบ่อย จึงตัดสินใจติดต่อ 1686 call center ของ True ในวันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ก็รับเรื่อง นัดช่างเอาไว้เรียบร้อย

พอถึงวันนัดช่าง เป็นวันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ ช่างมาตามนัด มาตรวจเช็คสายสัญญาณภายในห้อง ลองเปลี่ยนขั้วสายอะไรก็แล้ว ปัญหาก็ยังไม่หาย ช่างจึงตัดสินใจเปลี่ยนกล่องรับสัญญาณเสียเลย แต่ปรากฏว่าจากภาพที่ค้างเป็นบางจังหวะ ตอนนี้กลับแตกเป็นโมเสก ช่างจึงสรุปว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่อุปกรณ์ในห้องของผมแล้ว แต่เป็นอุปกรณ์ที่อยู่ภายนอกห้อง เป็นอุปกรณ์ที่อยู่ในส่วนกลางของคอนโด ช่างจึงติดต่อกับช่างอีกทีมให้เข้ามาดูแทน

วันนั้นทุกอย่างดูปกติจนถึงเย็นของวันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ ผมกลับจากทำงานมาพบว่าอินเทอร์เน็ตที่ห้องไม่มีสัญญาณ ลองเปิดโทรทัศน์ดูก็ขึ้นรหัส ER-16 ไม่มีสัญญาณอีกเช่นกัน จึงได้รีบติดต่อ call center อีกครั้ง เจ้าหน้าที่บอกว่าจะรีบแจ้งให้ช่างเข้ามาดูเช้าวันรุ่งขึ้นโดยเร็ว ผมก็โอเค ไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้เพียงแค่วันเดียว ไม่เป็นอะไรมาก

เช้าวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ ผมออกไปทำงานอย่างมีความหวังว่ากลับมาทุกอย่างจะเรียบร้อย ปัญหาทุกอย่างจะถูกแก้แล้วเสร็จ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ปัญหาทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไฟที่ router ยังคงกระพริบไม่มีสัญญาณเหมือนเดิม TrueVisions ยังขึ้น error code เดิม และผมก็ยิ่งหงุดหงิดขึ้นไปอีกเมื่อได้รับทราบจาก call center ว่าไม่มีแจ้งจากช่างว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นหมายความว่าช่างที่ call center นัดเอาไว้ว่าจะเข้ามา ไม่ได้เข้ามา

ผมเริ่มต่อว่าการทำงานของ True หนักขึ้นเพราะช่างไม่มาตามนัด และแจ้ง call center ไปว่า อาการแบบนี้น่าจะเป็นที่ช่างทำสายของห้องผมหลุด เพียงแค่ให้ช่างสละเวลาเข้ามาที่คอนโดผมไม่ถึงสิบนาที เสียบสายกลับเข้าไปก็น่าจะเสร็จแล้ว call center รับปากว่าจะแจ้งให้ช่างเข้ามาดูในเช้าวันพุธเป็นการเร่งด่วน และเสนอลดค่าบริการให้โดยคำนวณจากวันที่ใช้งานไม่ได้ อีกทั้งยังทำเรื่องตำหนิช่างที่ไม่มาตามนัดหมายอีกด้วย ผมโอเคกับสิ่งที่ True เสนอ

เย็นวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ ผมกลับมาและพบว่าปัญหายังไม่ถูกแก้เหมือนเดิม ผมว่าใครเจอแบบนี้คงต้องอารมณ์เสียกันบ้างแน่นอน ผมติดต่อ 1686 อีกรอบ call center ก็แจ้งเหมือนเดิมว่าไม่มีช่างเข้ามา และจะทำเรื่องเร่งช่างให้เข้ามาดูวันรุ่งขึ้นให้ได้ ถึงตอนนี้ผมก็ถามกลับไปว่า 

วันจันทร์คุณบอกจะให้ช่างมาวันอังคาร วันอังคารช่างก็ไม่มา วันอังคารคุณบอกจะให้ช่างมาวันพุธ ช่างก็ไม่มา วันนี้คุณบอกว่าจะให้ช่างมาพรุ่งนี้ แล้วพรุ่งนี้ช่างจะมามั้ย?

เจ้าหน้าที่ให้สัญญาว่าจะตามช่างให้ และจะติดต่อผมอีกทีประมาณ 11 โมงของวันพฤหัสบดี

วันพฤหัสฯ เวลา 11 โมงกว่าๆ เจ้าหน้าที่คนเดิมติดต่อผมมาจริงๆ เจ้าหน้าที่สอบถามว่ามีช่างเข้าไปแก้ให้หรือยัง ผมตอบไปว่าไม่ทราบเพราะออกมาทำงาน เจ้าหน้าที่ถามอีกว่ามีช่างติดต่อไปมั้ย ผมบอกว่าไม่มี เจ้าหน้าที่เลยขอไปตามช่างให้อีกรอบ จากนั้นประมาณเกือบบ่ายโมงถึงมีช่างโทร.มาว่าจะเข้าไปแก้ไขปัญหาให้

ดูจากรูปการแล้วจะเห็นว่าถ้าเจ้าหน้าที่ไม่คอยตาม ช่างคงไม่เข้าไปดูให้อย่างแน่นอน จริงๆ ก็น่าเห็นใจเจ้าหน้าที่ call center อยู่เหมือนกันที่ต้องคอยรองรับอารมณ์ของลูกค้าที่เกิดจากความไม่รับผิดชอบของช่าง แต่อยู่ดีๆ ลูกค้าจะไปติดต่อช่างโดยตรงได้อย่างไร ก็ต้องติดต่อผ่าน call center ก่อนอยู่ดี

จากนั้นประมาณบ่ายสามโมง ช่างโทร.มาอีกรอบ แจ้งว่าได้เข้าไปเสียบสายห้องของผมที่หลุดเรียบร้อยแล้ว แต่ผมบอกว่าตอนนี้อยู่ที่ทำงาน ยังเช็คไม่ได้ว่าปัญหาถูกแก้เรียบร้อยแล้วหรือยัง จึงบอกช่างไปว่าเมื่อกลับถึงห้องแล้วจะโทร.แจ้งอีกที

จะเห็นว่าต้นเหตุของปัญหาเป็นอย่างที่ผมคิดเอาไว้แต่แรกจริงๆ แค่สายหลุด ถ้าช่างเข้ามาแก้ไขให้ตั้งแต่วันแรกก็เรียบร้อยแล้ว ไม่น่าใช้เวลาเกิน 10 นาทีเสียด้วยซ้ำ แต่กลับปล่อยให้ผ่านมาถึงสามสี่วัน ลูกค้าก็ได้รับประสบการณ์แย่ๆ ตัวเองก็ถูกร้องเรียน เจ้าหน้าที่ call center ก็ต้องมารองรับอารมณ์ของลูกค้า โดนกันไปหมด

เย็นวันพฤหัสฯ กลับมาถึงห้อง ผมก็เช็คอินเทอร์เน็ตก่อนเลย มีสัญญาณเรียบร้อย ใช้งานได้ปกติ TrueVisions ก็มีสัญญาณแล้ว ไม่ขึ้น error code อีกแล้ว แต่ภาพที่ได้ ยังเป็นโมเสกเหมือนเดิม และบางช่องหนักขนาดดูไม่ได้เลย ลองดูวิดีโอที่แนบข้างล่างนี้เอาเองแล้วกันว่ามันเลวร้ายแค่ไหน

ผมติดต่อ call center อีกครั้ง เพื่อแจ้งผลการซ่อมอินเทอร์เน็ตว่าใช้งานได้ปกติแล้ว และถามถึงปัญหาภาพกระตุกที่ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้ call center แจ้งกลับมาว่าปัญหานั้นช่างได้ปิดไปแล้ว ผมก็งงสิครับ ช่างยังแก้ปัญหาไม่เสร็จเลย จะปิดไปได้อย่างไร เจ้าหน้าที่จึงนัดช่างให้เข้ามาดูอีกรอบเป็นวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์นี้

คงต้องรอดูต่อไปว่าช่างจะมาตามนัดมั้ย ช่างมาแล้วจะแก้ปัญหาได้มั้ย ส่วนลดค่าบริการที่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะทำเรื่องให้ จะได้ลดหรือไม่ ถ้าลดจะลดสักกี่บาท มีเรื่องให้ติดตามเยอะเลยทีเดียว

ป.ล. จากที่ผมได้โพสต์ปัญหานี้ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นระยะๆ มีเพื่อนหลายคนแนะนำว่าให้ยกเลิกเปลี่ยนไปใช้เจ้าอื่นเสีย แต่อะไรๆ มันไม่ง่ายอย่างนั้น ใครที่อยู่คอนโดคงทราบว่าไม่ใช่ว่าผู้ให้บริการทุกเจ้าจะมาเดินสายภายในตึกให้ ต้องมีผู้แสดงความจำนงมากพอสมควร และต้องได้รับอนุญาตก่อนจึงจะเข้ามาติดตั้งได้ และตอนนี้ก็มีเพียง True เท่านั้นที่ให้บริการในคอนโดนี้ ฉะนั้นผมจะเปลี่ยนไปใช้เจ้าอื่นไม่ได้เลย และถ้ายกเลิกไปแล้วผมก็จะไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ ซึ่งมันเลวร้ายยิ่งกว่านี้เสียอีก




from WordPress http://ift.tt/2lKuskc
via IFTTT

Comments

Popular posts from this blog

เพื่อนสนิท ไม่ว่าจะไม่เจอกันนานแค่ไหน เมื่อกลับมาเจอกันใหม่ก็ยังรู้สึกสนิทกันเหมือนเดิมจริงหรือ?

เคยมีคนบอกเอาไว้ว่า " เพื่อนสนิท ไม่ว่าจะไม่เจอกันนานแค่ไหน เมื่อกลับมาเจอกันใหม่ก็ยังรู้สึกสนิทกันเหมือนเดิม " ผมว่ามันไม่จริงเสมอไป อาจจะต้องเริ่มอธิบายกันก่อนว่าทำไมเราถึงรู้สึกสนิทกับใครบางคน การที่เราจะสนิทกับใครสักคนเราต้องกิจกรรมทางสังคมหลายๆ อย่างด้วยกันบ่อยๆ มีกิจกรรมร่วมกัน เช่น ไปกินข้าวด้วยกันประจำ ไปเที่ยวด้วยกันประจำ คุยกันเป็นประจำ ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ เป็นต้น การที่เราจะทำกิจกรรมแบบนี้กับใครสักคนได้เป็นประจำ เชื่อเถอะว่าคุณกับเขา ต้องมีความคิดเห็น นิสัย ความชอบอะไรเหมือนๆ กัน เอาจริงๆ คือแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คนชอบกินอะไรคนละอย่างแต่ดันไปกินข้าวด้วยกันเป็นประจำ หรือคนที่ชอบคุยกันคนละเรื่องแต่ก็ดันคุยกันด้วยกันทุกวัน คนที่ชอบเที่ยวกันคนละสไตล์แต่ก็ดันไปเที่ยวด้วยกันเป็นประจำอีก อาจจะมีข้อยกเว้นนะ แต่ผมว่าโอกาสเป็นไปได้น้อยมากๆ ข้อเท็จจริงข้อหนึ่งที่ต้องยอมรับกันก็คือ นิสัย ความชอบ ทัศนคติของคนเราเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ในขณะที่เพื่อนสนิทต่างต้องแยกย้ายกันไปมีชีวิตของตนเอง ต่างคนต่างต้องเผชิญกับชีวิตรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ประสบการณ์ต่างๆ ที่ต่างคนต่างพบเจอนี่แหละ ท

วิธีการแก้ไขปัญหาซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์

ปัญหาการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทย เป็นปัญหาที่แก้กันไม่ตก เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ต่อหัวของประชากรค่อนข้างต่ำ แต่รสนิยมในการบริโภคกลับไม่ต่ำตาม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีการผลิตของลอกเลียนแบบ หรือของละเมิดลิขสิทธิ์ในอัตราที่สูงจนติดอันดับต้นๆ ของโลก ไม่เพียงรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ติดอันดับโลก แต่รวมไปถึงสินค้าแบรนด์เนมสุดหรูอย่างเสื้อผ้า กระเป๋า น้ำหอม เครื่องสำอางอีกด้วย ซอฟต์แวร์ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ มีตั้งแต่ซอฟต์แวร์ประเภทระบบปฏิบัติการ อย่าง Windows และ Mac OS ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในในสำนักงาน อย่าง MS Office ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในงานออกแบบ อย่าง Adobe Creative Suit รวมไปถึงซอฟต์แวร์ที่ใช้ทำงานเฉพาะด้านอย่าง CAD/CAM และอีกมากมายหลายประเภท ผู้ที่เสาะแสวงหาซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์นั้นส่วนใหญ่เป็นบุคคลธรรมดา เพราะพวกเขาเหล่านั้นคิดว่าการใช้ซอฟต์แวร์ปลอมตรวจจับได้ยาก อีกทั้งการใช้ซอฟต์แวร์ปลอมก็ไม่ได้ทำให้เขาสูญเสียผลประโยชน์แต่อย่างใด ซึ่งผิดกับนิติบุคคล อย่างองค์กรของรัฐ หรือบริษัทต่างๆ ที่ต้องการการบำรุงรักษาระบบ และบริการหลังการขาย

วัฒนธรรมขององค์กร

เช่นเดียวกับโครงสร้างขององค์กรที่มีผลต่อความสามารถในการจัดการโครงการ วัฒนธรรมขององค์กรก็มีผลเช่นกัน วัฒนธรรมขององค์กร คือกลุ่มของความคิด ค่านิยม และพฤติกรรมที่มีร่วมกันซึ่งใช้เป็นเครื่องหมายในการทำงานขององค์กร วัฒนธรรมขององค์กรมีพลังอย่างมากและหลายคนเชื่อเป็นต้นเหตุของปัญหาของบริษัท ไม่ใช่โครงสร้างขององค์กรหรือตัวพนักงานเอง มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะตระหนักว่าภายในองค์กรเดียวกันอาจมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศอาจมีวัฒนธรรมขององค์กรที่แตกต่างจากฝ่ายการเงิน วัฒนธรรมขององค์กรบางอย่างก็ช่วยให้การบริหารงานโครงการเป็นไปได้ง่ายขึ้น จาก Stephen P. Robbins ผู้แต่งหนังสือพฤติกรรมขององค์กร มีลักษณะของวัฒนธรรมขององค์กรอยู่ 10 ประการ ดังนี้ Member Identity: ระดับที่พนักงานให้กับองค์กรโดยรวมแทนที่จะกับประเภทของงานหรืออาชีพ ตัวอย่างเช่น ผู้จัดการโครงการหรือสมาชิกในทีมอาจจะรู้สึกว่าอุทิศตนให้กับบริษัทของเขาหรือทีมมากกว่างานของพวกเขา หรือพวกเขาอาจไม่รู้สึกว่ามีความซื่อสัตย์ใดๆ กับองค์กรหรือทีม ถ้าคุณเดาได้ วัฒนธรรมขององค์กรที่พนักงานให้มากกว่ากับองค์กรโดยรวมจะนำไปสู่วัฒนธ