Skip to main content

ความรักกับความคลั่ง

ความรัก กับ ความคลั่ง มันไม่เหมือนกันนะ ถึงแม้บางทีมันอาจจะดูคล้ายๆ กันก็เถอะ

เคยเห็นหรือเคยได้ข่าวนักนักเรียน หรือเด็กช่างกลตีกันมั้ย?
พวกท่านคิดว่าเด็กพวกนั้นรักโรงเรียน รักสถาบันกันของตัวเองหรือเปล่า?

ถ้าไปถามเด็กพวกนั้น ทุกคนน่าจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่ารัก! ที่รักถึงได้ทำไปอย่างนั้น ที่ทำไปเป็นเพราะต้องการรักษาศักดิ์ศรีของโรงเรียนของสถาบัน ไม่ให้สถาบันคู่อริมาหยามเกียรติหรือลบหลู่

คำถามต่อมาคือ คนนอกที่มองเห็นหรือได้ข่าวเด็กนักเรียนหรือเด็กช่างกลตีกัน มองว่าการกระทำนั้นเป็นการแสดงความรักโรงเรียนหรือไม่? เกือบ 100% ยอมมองว่าไม่อย่างแน่นอน เป็นการสร้างปัญหาให้แก่สังคมมากกว่า อีกทั้งชื่อเสียงของโรงเรียนหรือสถาบันก็ไม่ได้ดีขึ้น กลับแย่ลงเพราะการกระทำพรรค์นี้เสียด้วยซ้ำ

เด็กพวกนั้นก็รักโรงเรียน รักสถาบันของตัวเอง แต่ทำไมถึงได้แสดงออกให้คนภายนอกรู้สึกว่าเป็นการทำลายโรงเรียน ทำลายสถาบัน? มันต้องมีอะไรผิดปรกติอย่างแน่นอน มันใช่ “ความรัก” จริงหรือ? หรือรักมากเกินไปจนถึงขั้นที่เรียกว่า “ความคลั่ง“?

ทีนี้ถ้าเราลองมองถึงระดับที่ใหญ่ขึ้น ตามที่เกริ่นนำเอาไว้ คือระดับชาติ

เมื่อวันก่อนมีกระแสข่าววอลเลย์บอลหญิงไทยที่แพ้ญี่ปุ่นอย่างน่ากังขา เชื่อว่าทุกคนย่อมมีความรู้สึกโกรธเคืองอยู่ไม่มากก็น้อย

คนที่รักชาติย่อมไม่ทำการกระทำใดๆ ให้ประเทศชาติเสียถูกมองด้านลบ คนที่รักชาติอย่างมีสติ ออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอย่างอารยะ

ในขณะที่คนอีกกลุ่ม ผมคิดว่าเขาก็รักชาติเหมือนกัน จึงได้รู้สึกโกรธแค้น แต่อาจจะอยู่ในระดับที่มากเกินไป เข้าเกณฑ์ที่เรียกว่าคลั่งชาติก็ได้ ออกมาปลุกระดมต่างๆ นานาให้เกิดการเกลียดชังประเทศญี่ปุ่นคู่แข่งขัน อีกทั้งยังไปแสดงออกอย่างหยาบคายกับคนญี่ปุ่นที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วย เมื่อคนภายนอกมองเห็นการกระทำของคนกลุ่มนี้ ประเทศชาติโดยรวมย่อมเสื่อมเสียไปด้วย

อย่างนี้ไม่อาจเรียกว่ารักชาติได้ ไม่อาจเรียกว่าทำเพื่อชาติได้

ที่ยกเรื่องความรักชาติกับความคลั่งชาติมานำเสนอ อยากให้ผู้อ่านได้ลองพิจารณาดูความรักอื่นๆ รอบตัวดูว่าสิ่งที่ตนเองบอกว่ารักนั้น ท่านได้แสดงความรักออกมาอย่างถูกต้องแล้วหรือเปล่า หรือท่านรักมากเกินไปหรือเปล่า ความรักที่ท่านมีมากเกินไปอาจถูกแสดงออกมาอย่างเด็กช่างกลที่ทำร้ายเด็กสถาบันคู่อริก็ได้ สิ่งที่คนนอกมองมาอาจจะเป็นความเสื่อมเสียของสิ่งที่ท่านรักก็เป็นได้




from WordPress http://ift.tt/1WHSqJK
via IFTTT

Comments

Popular posts from this blog

เพื่อนสนิท ไม่ว่าจะไม่เจอกันนานแค่ไหน เมื่อกลับมาเจอกันใหม่ก็ยังรู้สึกสนิทกันเหมือนเดิมจริงหรือ?

เคยมีคนบอกเอาไว้ว่า " เพื่อนสนิท ไม่ว่าจะไม่เจอกันนานแค่ไหน เมื่อกลับมาเจอกันใหม่ก็ยังรู้สึกสนิทกันเหมือนเดิม " ผมว่ามันไม่จริงเสมอไป อาจจะต้องเริ่มอธิบายกันก่อนว่าทำไมเราถึงรู้สึกสนิทกับใครบางคน การที่เราจะสนิทกับใครสักคนเราต้องกิจกรรมทางสังคมหลายๆ อย่างด้วยกันบ่อยๆ มีกิจกรรมร่วมกัน เช่น ไปกินข้าวด้วยกันประจำ ไปเที่ยวด้วยกันประจำ คุยกันเป็นประจำ ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ เป็นต้น การที่เราจะทำกิจกรรมแบบนี้กับใครสักคนได้เป็นประจำ เชื่อเถอะว่าคุณกับเขา ต้องมีความคิดเห็น นิสัย ความชอบอะไรเหมือนๆ กัน เอาจริงๆ คือแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คนชอบกินอะไรคนละอย่างแต่ดันไปกินข้าวด้วยกันเป็นประจำ หรือคนที่ชอบคุยกันคนละเรื่องแต่ก็ดันคุยกันด้วยกันทุกวัน คนที่ชอบเที่ยวกันคนละสไตล์แต่ก็ดันไปเที่ยวด้วยกันเป็นประจำอีก อาจจะมีข้อยกเว้นนะ แต่ผมว่าโอกาสเป็นไปได้น้อยมากๆ ข้อเท็จจริงข้อหนึ่งที่ต้องยอมรับกันก็คือ นิสัย ความชอบ ทัศนคติของคนเราเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ในขณะที่เพื่อนสนิทต่างต้องแยกย้ายกันไปมีชีวิตของตนเอง ต่างคนต่างต้องเผชิญกับชีวิตรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ประสบการณ์ต่างๆ ที่ต่างคนต่างพบเจอนี่แหละ ท

วิธีการแก้ไขปัญหาซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์

ปัญหาการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทย เป็นปัญหาที่แก้กันไม่ตก เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ต่อหัวของประชากรค่อนข้างต่ำ แต่รสนิยมในการบริโภคกลับไม่ต่ำตาม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีการผลิตของลอกเลียนแบบ หรือของละเมิดลิขสิทธิ์ในอัตราที่สูงจนติดอันดับต้นๆ ของโลก ไม่เพียงรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ติดอันดับโลก แต่รวมไปถึงสินค้าแบรนด์เนมสุดหรูอย่างเสื้อผ้า กระเป๋า น้ำหอม เครื่องสำอางอีกด้วย ซอฟต์แวร์ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ มีตั้งแต่ซอฟต์แวร์ประเภทระบบปฏิบัติการ อย่าง Windows และ Mac OS ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในในสำนักงาน อย่าง MS Office ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในงานออกแบบ อย่าง Adobe Creative Suit รวมไปถึงซอฟต์แวร์ที่ใช้ทำงานเฉพาะด้านอย่าง CAD/CAM และอีกมากมายหลายประเภท ผู้ที่เสาะแสวงหาซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์นั้นส่วนใหญ่เป็นบุคคลธรรมดา เพราะพวกเขาเหล่านั้นคิดว่าการใช้ซอฟต์แวร์ปลอมตรวจจับได้ยาก อีกทั้งการใช้ซอฟต์แวร์ปลอมก็ไม่ได้ทำให้เขาสูญเสียผลประโยชน์แต่อย่างใด ซึ่งผิดกับนิติบุคคล อย่างองค์กรของรัฐ หรือบริษัทต่างๆ ที่ต้องการการบำรุงรักษาระบบ และบริการหลังการขาย

วิธีการใช้ไม้บรรทัดและแท็บใน Microsoft Office Word 1

เชื่อว่าทุกๆ คน คงได้ใช้ Microsoft Office Word กันทุกคน และก็น่าเชื่ออีกว่า หลายๆ คนที่ใช้ๆ อยู่ ไม่รู้วิธีการใช้ไม้บรรทัด และแท็บอย่างแท้จริง เรามาเริ่มต้นด้วยการรู้จักกับไม้บรรทัดกันก่อนดีกว่า ในที่นี้ของใช้เวอร์ชัน 2007 ในการแนะนำแล้วกันนะครับ แต่เนื่องจากเป็นการเขียนเองจากประสบการณ์การใช้ การใช้ศัพท์อะไรต่างๆ อาจไม่ถูกต้องตามที่ผู้ผลิตบัญญัติไว้ ขออภัยด้วย จะเห็นว่าไม้บรรทัดมีส่วนที่เป็นสีอยู่สองสี ส่วนที่เป็นสีจะเป็นส่วนของขอบกระดาษ ส่วนที่เป็นสีขาวจะเป็นพื้นที่ทำงานจริงๆ ของเรา ส่วนที่เป็นสี่เหลี่ยมสามเหลี่ยมนั้น เป็นส่วนที่ช่วยในการจัดย่อหน้าข้อความ เอาล่ะๆ ขั้นต่อไป เราไปทำความรู้จักกับแท็บแบบต่างๆ กัน ที่อยู่ของการจัดรูปแบบแท็บอยู่ทางซ้ายบนของกรอบกระดาษ แท็บก็มีหลายรูปแบบ เพื่อการใช้งานในรูปแบบต่างๆ กัน เราสามารถเลือกใช้แท็บต่างๆ โดยการคลิกหนึ่งที (คลิกซ้ายหรือขวาก็ได้) ที่รูปแท็บนั้น แล้วไปคลิกจุดที่ต้องการวางแท็บบนไม้บรรทัด นี่คือแท็บซ้าย เอาไว้จัดข้อความให้ชิดซ้าย นี่คือแท็บกึ่งกลาง เอาไว้จัดข้อความให้อยู่กึ่งกลาง นี่คือแท็บขวา เอาไว้