เช่นเดียวกับโครงสร้างขององค์กรที่มีผลต่อความสามารถในการจัดการโครงการ วัฒนธรรมขององค์กรก็มีผลเช่นกัน วัฒนธรรมขององค์กรคือกลุ่มของความคิด ค่านิยม และพฤติกรรมที่มีร่วมกันซึ่งใช้เป็นเครื่องหมายในการทำงานขององค์กร วัฒนธรรมขององค์กรมีพลังอย่างมากและหลายคนเชื่อเป็นต้นเหตุของปัญหาของบริษัท ไม่ใช่โครงสร้างขององค์กรหรือตัวพนักงานเอง มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะตระหนักว่าภายในองค์กรเดียวกันอาจมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศอาจมีวัฒนธรรมขององค์กรที่แตกต่างจากฝ่ายการเงิน วัฒนธรรมขององค์กรบางอย่างก็ช่วยให้การบริหารงานโครงการเป็นไปได้ง่ายขึ้น
จาก Stephen P. Robbins ผู้แต่งหนังสือพฤติกรรมขององค์กร มีลักษณะของวัฒนธรรมขององค์กรอยู่ 10 ประการ ดังนี้
- Member Identity: ระดับที่พนักงานให้กับองค์กรโดยรวมแทนที่จะกับประเภทของงานหรืออาชีพ ตัวอย่างเช่น ผู้จัดการโครงการหรือสมาชิกในทีมอาจจะรู้สึกว่าอุทิศตนให้กับบริษัทของเขาหรือทีมมากกว่างานของพวกเขา หรือพวกเขาอาจไม่รู้สึกว่ามีความซื่อสัตย์ใดๆ กับองค์กรหรือทีม ถ้าคุณเดาได้ วัฒนธรรมขององค์กรที่พนักงานให้มากกว่ากับองค์กรโดยรวมจะนำไปสู่วัฒนธรรมของโครงการที่ดีกว่า
- Group emphasis: ระดับซึ่งกิจกรรมการทำงานได้รับการจัดสรรผ่านกลุ่มหรือทีมแทนที่จะเป็นตัวบุคคล วัฒนธรรมขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นกลุ่มคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการโครงการ
- People fucus: ระดับซึ่งการตัดสินใจของการจัดการคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้คนที่อยู่ในองค์กร ผู้จัดการโครงการอาจจะมอบหมายงานให้กับคนที่ไว้ใจได้โดยลืมคำนึงถึงความต้องการส่วนตัวของเขา หรือผู้จัดการโครงการอาจจะรู้จักแต่ละคนดีและโฟกัสไปที่ความต้องการของแต่ละคนเมื่อทำการมอบหมายงานหรือทำการตัดสินใจอื่นๆ ผู้จัดการโครงการที่ดีมักจะทำให้เกิดความสมดุลระหว่างความต้องการส่วนตัวกับองค์กร
- Unit integration: ระดับซึ่งหน่วยหรือแผนกภายในองค์กรได้รับการกระตุ้นให้ดำเนินการระหว่างกัน ผู้จัดการโครงการส่วนมากมักพยายามให้มีการบูรณาการของหน่วยงานอย่างแข็งขันเพื่อที่จะนำมาซึ่งผลผลิต, บริการ หรือผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จ วัฒนธรรมขององค์กรที่มีการบูรณาการของหน่วยงานจะทำให้งานของผู้จัดการโครงการง่ายขึ้น
- Control: ระดับซึ่งกฎ, นโยบาย และการดูแลคำสั่งถูกใช้สำหรับตรวจสอบและควบคุมพฤติกรรมของพนักงาน ผู้จัดการโครงการที่มีประสบการณ์รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่จะสมดุลระดับการควบคุมเพื่อที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีของโครงการ
- Risk tolerance: ระดับซึ่งพนักงานได้รับการกระตุ้นให้ดุดัน, สร้างสรรค์ และมองข้ามความเสี่ยง วัฒนธรรมขององค์กรที่มีความยอมรับต่อความเสี่ยงที่สูงกว่ามักจะเป็นผลดีต่อการจัดการโครงการ เพราะว่าโครงการมักจะเกี่ยวข้องกับเทคโนโยลี ความคิด และกระบวนการ
- Reward criteria: ระกับซึ่งรางวัล เช่น การเลื่อนตำแหน่ง และการขึ้นเงินเดือนได้รับการจัดสรรจากความสามารถของพนักงานมากกว่าความอาวุโส, ความลำเอียง หรือปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับความสามารถ ผู้จัดการโครงการและทีมมักจะทำดีที่สุดเมื่อรางวัลที่จะได้รับมีพื้นฐานมาจากความสามารถในการทำงาน
- Conflict tolerance: ระดับซึ่งพนักงานได้รับการกระตุ้นให้ระบายความขัดแย้งและวิจารณ์กันอย่างเปิดเผย มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกโครการที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องมีการสื่อสารกันอย่างดี ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดใกรทำงานในองค์กรซึ่งผู้คนจะมีความรู้สึกที่ดีในการถกเถียงปัญหาความขัดแย้งกันอย่างเปิดเผย
- Means-ends orientation: ระดับซึ่งการจัดการมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์มากกว่าเทคนิคและกระบวนการที่ใช้ องค์กรที่มีการสมดุลสิ่งเหล่านี้ได้ดีมักจะดีต่องานโครงการ
- Open-systems fucus: ระดับซึ่งองค์กรสอดส่องและตอบสนองต่อความเลี่ยนแปลงจากสภาพแวดล้อมภายนอก โครงการเป็นส่วนที่ใหญ่กว่าสภาพแวดล้อมขององค์กร ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะมีการมุ่งเน้นระบบเปิดอย่างโดดเด่น
จะเห็นได้ว่ามีความสัมพันธ์ที่แน่นอนระหว่างวัฒนธรรมขององค์กรกับการจัดการโครงการ งานโครงการจะประสบความสำเร็จมากสุดในวัฒนธรรมขององค์กรที่พนักงานมุ่งเน้นที่องค์กร ที่ให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นกลุ่ม, ที่มีการบูรณาการหน่วยงานอย่างแข็งแรง, ยอมรับความเสี่ยงสูง, รางวัลที่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำงาน, การยอมรับความขัดแย้ง, การมุ่งเน้นระบบเปิด และสนใจผู้คน การควบคมและมุ่งเน้นเป้าหมายอย่างสมดุล
Comments